วิธีเล่นรูเล็ต starvegas
วิธีเล่นรูเล็ต นั้นถือได้ว่าเป็นอีกเกมที่จะพลาดไม่ได้เลย เนื่องจากเป็นเกมที่มีความน่าสนใจ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จาก starvegas วันนี้เราได้มีบทความที่รวบรวมเกี่ยวกับรายละเอียดของเกมรูเล็ตมาไว้ที่นี่ รวมถึงวิธีเล่นรูเล็ตว่าเล่นอย่างไร เพราะเราเชื่อว่ามีคนบางส่วนไม่กล้าเล่นเกมนี้ เนื่องจากตารางเดิมพันที่อาจจะดูงง ๆ และไม่รู้ว่าจะต้องวางชิพตรงไหนอย่างไร ฉะนั้นเดี๋ยวไปดูกันเลย
รายละเอียดของเกมรูเล็ต
ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับ เกมรูเล็ตกันก่อนเลย สำหรับเกมรูเล็ตนั้น จะเป็นลักษณะของจานวงกลมที่มีการแบ่งช่องรางตัวเลขล้อมรอบ โดยมาตรฐานแล้วนั้น มักมีเลข 0-36 รวมถึงจะมีช่องสีดำและแดงด้วย แต่ช่องของเลข 0 นั้นจะเป็นสีเขียว โดยรูปแบบของจานรูเล็ตยังแบ่งออกได้เป็นสองแบบ ก็คือ American Roulette ที่จะมีช่องเลข 0 อยู่สองช่อง และอีกแบบคือ European Roulette ที่จะมีช่อง 0 อยู่ช่องเดียว
สำหรับรูปแบบการเล่นนั้น ก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากและซับซ้อนมากมายนัก เพียงให้คุณทำการทายผลว่าลูกเหล็กที่หมุนไปตามจานหมุน หรือรางนั้นจะไปหยุดลงที่ช่องไหน ถ้าทายถูกก็สามารถรับ รางวัล ไปเลย แต่ก็จะมีตัวเลขตั้งหลายเลข แล้วแบบนี้จะไปแทงเดิมพันถูกได้อย่างไร ถ้าอย่างนั้นไปทำความเข้าใจวิธีเล่นกันแบบละเอียดขึ้นกว่านี้ดีกว่า
วิธีเล่นเกม รูเล็ต สำหรับวิธีในการวางเดิมพันนั้น เราจะเริ่มจากการแทงที่ง่ายที่สุดกันก่อน โดยจะมีการแทง ดังต่อไปนี้
1. การแทง คู่คี่
สำหรับการแทงคู่- คี่ แบบนี้นั้น มักจะเป็นการแทงแบบเน้นคู่คี่ เพราะการแทงได้ง่ายนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าผลการแทงจะเป็นแบบ 50-50 เสมอไป สาเหตุ เนื่องจาก จะมีช่องของเลข 0 ที่ไม่ได้นับเป็นคู่คี่อยู่ด้วยนั่นเอง
2. การแทงสี
สำหรับการแทงสี นี้ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการเล่น เพราะแต่ละช่องจะมีสีดำ และแดงอยู่ ซึ่งเป็นทางเลือกในการแทงแบบ 50-50 แต่ก็ไม่มีครึ่ง ๆ เสียทีเดียว เพราะช่องเลข 0 จะเป็นสีเขียวนั่นเอง
3. การแทงสูงต่ำ
สำหรับการแทงในลักษณะการแทงสูงต่ำ จะใช้เป็นการกำหนดช่วงของตัวแรก ซึ่งจำนวนช่องมาตรฐานอยู่ที่ 36 ช่อง จึงถูกแบ่งออกเป็น 1-18 และ 19-36 ทั้งนี้จะไม่มีการนำช่องเลข 0 มารวมเอาไว้
4. การแทนแบบโซน
สำหรับการแทงแบบโซนนั้น จะละเอียดขึ้นมากกว่าการแทงแบบสูงต่ำ จากที่เป็น 2 ช่วง ก็จะถูกออกเป็น 3 ช่วงแทน นั่นก็คือ 1-12 , 13-24 , และ 25-36 โดยตกโซนละ 8 ช่อง แต่การแทงแบบโซนนี้สามารถแทงในอีกฝั่งได้ด้วย โดยจะเป็นชุดตัวเลขแนวขวางตามตารางอีกด้านหนึ่ง ซึ่งจะแบ่งได้ 3 โซน เช่นกัน
สำหรับด้านบนเป็นวิธีการแทงแบบในระดับพื้นฐาน ต่อไปเราจะไปดูการแทงที่ขั้นตอนที่ยากกว่า ก็คือการแทงภายในพื้นที่ตารางตัวเลข โดยจะมีรูปแบบการแทง ดังต่อไปนี้
- การแทงแบบเจาะจงที่ตัวเลข
สำหรับการแทงแบบเจาะจงตัวเลขนั้น อาจจะดูเป็นอะไรที่เข้าใจง่ายที่สุด แต่ก็ยากสุดเช่นกัน เนื่องจากโอาสถูกนั้นคิดเป็น 1/37 เลยทีเดียว แต่แน่นอนว่าอัตราจ่ายก็ต้องสูงตามไปด้วย โดยคิดเป็น 36 เท่ารวมทุนแล้ว ซึ่งเราก็ไม่จำเป็นต้องแทงแค่ช่องเดียวเสมอไป จะเลือกสัก 1/3 หรือ 1/4 เพื่อเก็บกำไรจากอัตราที่จ่ายนั้น ที่สูงกว่าเงินเดิมพันนั่นเอง
- การแทงแบบแยก
สำหรับการแทงแบบแยกนั้น เป็นการเพิ่มความสะดวกในการแทงควบ แทนที่จะทำการแทงทีละช่อง ก็ทำการแทงควบหรือคร่อม เส้นระหว่างแต่ละช่องได้เลย ซึ่งการทำเช่นนี้นั้น จะทำให้อัตราในการจ่ายลดน้อยลง 2 เท่าเช่นกัน เหลือ 18 เท่ารวมทุน
- การแทงแบบพ่วงหรือสตรีท
สำหรับการแทงแบบพ่วงนั้น ก็จะเป็นการแทงแบบเลือกทีเดียว 3 ตัวเลข โดยจะเลือกจากตัวเลขที่อยู่ในตารางช่องเดียวกัน ซึ่งจะมีอัตราในการจ่ายก็นำมาหารสามเหลือ 12 เท่ารวมทุนแล้วนั่นเอง
- การแทงแบบมุม
สำหรับการแทงแบบมุม ก็คือ การเลือกแทงแบบ 4 ตัวเลขพร้อมกัน โดยการวางชิพที่เส้นตัดของทั้ง 4 ช่อง ซึ่งโอกาสถูกเพิ่มขึ้น 4 เท่า ก็ลดอัตราในการจ่าย 4 เท่าเป็นจ่าย 9 เท่ารวมทุน
- การแทงแบบเส้น
สำหรับการแทงแบบเส้นนั้น จะเป็นการแทงที่เส้นตัดทางด้านล่างสุด ซึ่งจะมีความหมายเท่ากับแทงเลข 6 ช่องบนช่องซ้าย 3 แถว และขวา 3 แถว ซึ่งจะทำให้อัตราจ่ายลดลง 6 เท่า หรือก็คือจ่าย 6 เท่ารวมทุนแล้ว
- การแทงแบบกลุ่ม
ในส่วนของการแทงแบบกลุ่ม ค่อนข้างจะมีลักษณะพิเศษนิดนึง นั่นคือเป็นการแทงควบที่ช่อง 0 1 2 หรือ 3 ตัวเลข ซึ่งจะทำให้อัตราในการจ่ายอยู่ที่ 12 เท่ารวมทุน แต่ถ้าวางที่จุดตัดระหว่างเลข 0 กับ 1 จะเท่ากับแทงเลข 0 1 2 3 พร้อม ๆ กัน ถ้าหากคิดเป็น 4 ตัวเลข ซึ่งจะมีอัตราในการจ่ายที่ 9 เท่ารวมทุน จะเห็นว่าอัตราการจ่ายของทุกแบบนั้นจะอิงจากอัตราจ่าย 36 เท่า แล้วหารด้วยจำนวนช่องที่แทงนั่นเอง ซึ่งจะได้เป็นอัตราจ่ายรวมทุนแล้วนั่นเอง